homeremediesforeverything.org
ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร โครงการบางกอก คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอาสาสมัครพัฒนาสังคม หรือ อพม. ในไต้หวัน ได้ร้องทุกข์ไปยังกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้รับคำปรึกษาจาก น. บงกช นภาอัมภร นักศึกษาปริญญาเอกด้านสัญชาติ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และ น.
ศ. 2559 มาตรา 3 (3) ผู้ประกอบกิจการรายใหม่ทุกราย ต้องขออนุญาตก่อนเปิดกิจการ ส่วนผู้ดำเนินการต้องผ่านการอบรม ผ่านการสอบ และมีใบอนุญาตจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส. ) ผู้ให้บริการ หรือพนักงานทุกรายที่ทำหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุต้องผ่านการอบรม จบจากหลักสูตรที่กรม สบส. รับรอง และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการก่อนปฏิบัติงาน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 มกราคม 2564 นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การกำหนดให้กิจการดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้มีภาวะพึ่งพิง เป็นกิจการที่ต้องได้รับการดูแลมาตรฐานภายใต้ พ. ร. บ. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพฯ จำเป็นต้องมีกฎหมายนี้ เพื่อส่งเสริมให้สถานประกอบการมีคุณภาพมาตรฐาน และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคง และมีศักดิ์ศรี เป็นการขับเคลื่อนระบบการคุ้มครองผู้บริโภคของไทยให้เป็นที่ยอมรับ และมีศักยภาพ สามารถแข่งขันในระดับอาเซียนและระดับโลกได้ ด้าน นพ.
เศรษฐกิจ 13 เม. ย. 2565 เวลา 8:30 น. 291 กกร. เตรียมทำหนังสือเสนอนายกฯ ชะลอบังคับใช้ พ. ร. บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ. ศ. 2562 ออกไปอีก 2 ปี เนื่องจากกฎหมายลูกและหลักปฏิบัติที่ยังไม่มีความชัดเจน จะสร้างปัญหาการฟ้องร้องในอนาคต กระทบธุรกิจที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส. อ. ท. ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร. ) ประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยส. และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือร่วมกันเพื่อทำหนังสือเสนอต่อพล. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ขอเลื่อนการบังคับใช้ พ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ. 2562 หรือ Personal Data Protection Act B. E. 2562 (PDPA) ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ. 2565 ออกไปอีก 2 ปี เนื่องจาก พ. 2562 ยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดของกฎหมายรอง ทั้งยังมีโทษทางอาญาและมีผลบังคับถึงกรรมการบริษัท จะทำให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องที่ยืดเยื้อ ทั้งนี้ กกร. เสนอให้ทุกภาคส่วนควรช่วยกันแก้ พ. บ.
มกราคม (ไม่มีกฎหมายออกใหม่) 6. มิถุนายน (ไม่มีกฎหมายออกใหม่) 7. กรกฎาคม (ไม่มีกฎหมายออกใหม่) 9. กันยายน (ไม่มีกฎหมายออกใหม่) 10. ตุลาคม (ไม่มีกฎหมายออกใหม่) 11. ธันวาคม (ไม่มีกฎหมายออกใหม่) กฎหมาย ปี 2561
ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 เม. 2565 กกร. ได้หารือการบังคับใช้ พ. 2565 ทั้งนี้ พ. 2562 ได้ถูกเลื่อนออกมาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม เนื่องจากเป็นกฎหมายบางมาตรามีผลกระทบกับประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัล ดังนั้น จากการบังคับใช้ พ. ดังกล่าวในครั้งนี้จะกระทบต่อภาคธุรกิจโดยตรงด้วยเช่นกัน นายสุพันธุ์ กล่าวว่า กกร. จึงมีความเห็นว่ารัฐบาลควรให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะในการพิจารณากฎหมายลำดับรอง พร้อมกับเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ไปอย่างน้อย 2 ปี เพราะจากการประเมินของ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มองว่าเมื่อมีผลบังคับใช้ พ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลพ. 2562 แล้วผู้ประกอบการทั่วประเทศไทยราว 6-7 แสนราย จะต้องใช้เงินลงทุนระบบอย่างน้อย 50, 000 ล้านบาท ทั้งนี้ แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายในการจ้างทีมงานอบรมพนักงาน ค่าใช้จ่ายในการปรับระบบคอมพิวเตอร์ในการเชื่อมโยงข้อมูลของลูกค้า พร้อมกับการแจ้งลูกค้าเกี่ยวกับการปรับใช้ข้อมูลตามกฎหมายฉบับใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ หากจะบังคับใช้ พ. 2562 รวมถึงกฎหมายรอง ทุกภาคส่วนควรช่วยกันแก้พ. เพราะไม่อย่างนั้นจะเกิดช่องว่างของภาครัฐ ส่งผลให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจไม่ได้ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งหากภาครัฐยืนยันการบังคับใช้ พ.
สั่ง ซื้อ ของ โลตัส, 2024