homeremediesforeverything.org
ปีแสง ผู้เขียน: ดุจดาว วัฒนปกรณ์ สำนักพิมพ์: a book หนังสือเล่มแรกของ ดุจดาว วัฒนปกรณ์ เจ้าของพอดแคสต์ R U OK? นักบำบัดจิตด้วยศิลปะการเคลื่อนไหว ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารอย่างเห็นอกเห็นใจ (Empathic Communication) ที่จะมาเปิดเปลือยชีวิตตัวเธออย่างหมดเปลือก เผยให้เห็นความหมายที่แท้จริงของการเห็นอกเห็นใจที่เริ่มได้จากการยอมรับในทุกด้านความเป็นมนุษย์ของตนเอง 8. Why So Democracy ประชาธิปไตยมีดีอะไร? ผู้เขียน: พริษฐ์ วัชรสินธุ สำนักพิมพ์: บันลือบุ๊คส์ หนังสือเล่มแรกของ ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ ที่ถึงแม้จะหายไปจากเวทีการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าความสนใจในการเมืองของเขาไม่เคยหายไปไหน และ 'ประชาธิปไตย' ในประเทศไทยที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะทำให้เขาอยากสื่อสารเรื่องนี้ให้มากขึ้นด้วยซ้ำ ด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่า ' Why So Democracy ประชาธิปไตยมีดีอะไร? ' ที่เขาได้รวบรวมคำตอบไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วยหลายคำถามที่คนสงสัยเกี่ยวกับประชาธิปไตย เช่น เรายังเป็นประชาธิปไตยอยู่ไหม ถ้าคนทั้งประเทศโหวตไม่เอาประชาธิปไตย, ถ้าเราไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เรามีสิทธิบ่นไหม, ไดโนเสาร์กับเด็กเมื่อวานซืน ควรอยู่ร่วมกันอย่างไร ฯลฯ กับคำอธิบายเข้าใจง่าย มีทฤษฎีประกอบความเข้าใจ ผ่านการยกตัวอย่างใกล้ตัวเพื่อให้เห็นเป็นประจักษ์ว่าประชาธิปไตยนั้นเป็นไปได้และเป็นเรื่องของทุกคน – ตามที่มันควรจะเป็นจริงๆ 9.
ก่อนอื่นมามองอดีตกันก่อนว่ามนุษยชาติต้องเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง. ตลอดเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา มนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับความอดอยาก(famine), โรคระบาด(plague) และสงคราม(war). 1. ความอดอยาก ในอดีตความอดอยากคร่าชีวิตผู้คนมากที่สุด ในอดีตหากมีภัยแล้งขั้นรุนแรงเกิดขึ้น การที่มีผู้เสียชีวิต 5% ของจำนวนประชากรทั้งหมดเป็นเรื่องธรรมดามาก และคนเหล่านี้ขาดอาหารจนเสียชีวิตจริงๆ. แต่ใน 100 ปีที่ผ่านมา ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยี เศรษฐกิจและสังคม ทำให้ไม่มีความอดอยากตามธรรมชาติ(natural famines)อีกแล้ว จะมีก็แต่เพียงความอดอยากทางการเมือง(political famines)เท่านั้น. เป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ที่ในปัจจุบันเรามีผู้คนตายจากกการบริโภคมากเกินไปมากกว่าการบริโภคที่น้อยเกินไป. ในปี 2012 มีคนเสียชีวิตทั่วโลกประมาณ 56 ล้านคนทั่ โดยเสียชีวิตจากจากความรุนแรงของมนุษย์ด้วยกันอยู่ที่ 620, 000 คน ในขณะที่มีคนฆ่าตัวตาย 800, 000 คน และเสียชีวิตด้วยโรคเบาหวาน 1. 5 ล้านคน. เราอยู่ในยุคที่ดูเหมือนว่าน้ำตาลจะอันตรายกว่าปืนหรือระเบิดซะอีก. 2. โรคระบาด (plague). ต่อจากความอดอยาก ศัตรูต่อมามนุษยชาติคือโรคระบาด โรคระบาดที่คร่าชีวิตมนุษยชาติไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์ก็คือ(Black Death)ในปี 1330 มีผู้เสียชีวิตจากกาฬโรคถึง 75–200 ล้านคน.
เราอาจจะเลือกซื้อพลังเช่น พลังทางด้านร่างกายแบบเฮอคิวลิส, ความฉลาดเเบบอาเธน่า. จนถึงปัจจุบันมนุษย์เพิ่มพลังของตัวเองโดยใช้เครื่องมือจากปัจจัยภายนอกมาโดยตลอด อาจจะถึงเวลาแล้วที่เราจะเพิ่มพลังของตัวเองโดยใช้เครื่องมือภายใน เช่น ร่างกาย และจิตใจ หรืออาจจะรวมตัวเราเข้ากับอุปกรณ์ภายนอกต่างๆ. ความเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม, ฮอร์โมนหรือระบบประสาท เพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยน Homo erectus สิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยสร้างอะไรได้เลยนอกจากมีดหิน ให้กลายเป็น Homo sapiens ผู้สร้างยานอวกาศ. วิศวกรรมชีวภาพไม่จำเป็นต้องรอการคัดสรรทางธรรมชาติอีกต่อไป มันสามารถสร้างรหัสพันธุกรรมขึ้นมาใหม่พวกเราอาจจะกำลังสร้างเทพเจ้าองค์ใหม่ ผู้ซึ่งแตกต่างจากพวกเรา Sapiens เหมือนกับที่พวกเราต่างจาก Homo erectus. นั่นคือการ evolution จาก Homo Sapiens ไปเป็น Homo Deus นั้นเอง. บางทีพวกเราอาจจะมีเป้าหมายเเค่เป้าหมายเดียวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นั่นคือการเป็นเทพ มันอาจฟังดูไม่เป็นวิทยาศาสตร์นั่นก็เพราะเราตีความนิยามของการเป็นเทพเจ้าผิดไป. ความสามารถบางอย่าง เช่น ควบคุมสภาพอากาศ ติดต่อสื่อสารกันระยะไกล การเดินทางระยะไกลความเร็วสูง มนุษย์เราสามารถทำได้แล้ว และบางความสามารถสามารถทำได้ดีกว่าเทพเจ้าจริงๆ ที่เราเคยจินตนาการไว้ในอดีตซะอีก.
มหกรรมสัปดาห์หนังสือที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาเก็บหอมรอมริบรอคอยเริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2562 กับครั้งแรกในปีนี้ที่จัดขึ้น ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่เหล่านักเขียนและนักแปลต่างออกหนังสือใหม่ให้สมความยิ่งใหญ่ของสถานที่จัดงาน หากใครยังไม่มีแผนไปไหน เราอยากชวนคุณไปเดินงานหนังสือด้วยกัน แต่ถ้าอิมแพ็คมันกว้างไป มีหนังสือละลานตาให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว เราจึงขอคัดสรรหนังสือออกใหม่ที่น่าสนใจในงานปีนี้ 'เพื่อชีวิต (ที่ดีกว่า)' เพราะเราอยากชวนคุณมาพัฒนาตนเองและโลกรอบตัวไปพร้อมๆ กัน ส่วนจะมีเล่มไหนเข้าตาน่าสอยมาอ่านบ้างนั้น ไปดูกันเลย! 1. โฮโมดีอุส: ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้ (Homo Deus: A Brief History of Tomorrow) ผู้เขียน: ยูวัล โนอาห์ แฮรารี ผู้แปล: ดร.
ประชาสัมพันธ์ สิ้นสุดการรอคอย! โฮโมดีอุส: ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้ เล่มจบไตรภาคหนังสือชุดสะเทือนโลก วันจันทร์ ที่ 30 กันยายน พ. ศ. 2562, 15. 10 น.
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ได้พัฒนามาอย่างรวดเร็วในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา ที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมและอุตสาหกรรมใหม่ๆ มากมายอย่างสมาร์ทโฟน การสื่อสาร การเรียนรู้ การคมนาคม การทำงานในการเกษตร อุตสาหกรรม งานบริการ หุ่นยนต์ และงานอัตโนมัติต่างๆ การใช้ปัญญาประดิษฐ์จะแทนที่แรงงานและทักษะของคนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเรื่องสุขภาพ การตรวจวินิจฉัยโรค การผ่าตัด การรักษาทางไกล และงานอื่นๆ มากมาย 2.
3 ตุลาคม 2019 10 ประเด็นหลักที่ได้จากการอ่านหนังสือ โฮโมดีอุส: ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้ โฮโมดีอุส: ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้ 1 ในหนังสือสำคัญ 3 เล่มของ Yuval Noah Harari ที่เพิ่งได้รับการแปลเป็นภาษาไทย หนังสือที่โยน 'บิ๊กไอเดีย' ที่สั่นสะเทือนเผ่าพันธุ์มนุษย์ การมีอยู่ของพระเจ้า อัลกอริทึม AI หรือแม้กระทั่งการสูญสิ้นของเซเปียนส์ จากความยาวหนังสือกว่า 600 หน้า Readery Podcast ยก 10 ประเด็นสำคัญของ โฮโมดีอุส มาเล่าสู่กันฟัง ชี้ให้เห็...
— — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — — —. คุณ Yuval Noah Harari ให้ความเห็นไว้ว่าคือ 3 สิ่งนี้ได้เเก้ความเป็นอมตะ(immortality), ความสุข(happiness), และการเป็นเทพเจ้า(divinity). ความเป็นอมตะ(immortality). วิทยาศาสตร์สมัยใหม่มองความตาย (ที่ไม่ใช่อุบัติเหตุ หรือโดนฆ่าตาย) เป็นปัญหาทางเทคนิคทั้งสิ้น (แก้ไขได้). หัวใจหยุดเต้น เส้นเลือดในสมองแตก การกระจายตัวของเซลล์มะเร็ง การขยายตัวของเชื้อโรคในปอด ฯลฯ ล้วนเป็นปัญหาทางเทคนิคทั้งสิ้น. ทุกๆอย่างเป็นปัญหาทางเทคนิค ดังนั้นสักวันนึงเราอาจจะพบวิธีแก้ปัญหาทางเทคนิคเหล่านี้ได้. การแพทย์ในปัจจุบันไม่ได้ยืดอายุขัยเราออกไปมันแค่ช่วยให้เรารอดตายก่อนเวลาอันควรเท่านั้น. การจะก้าวไปถึงจุดนั้นต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง(re-engineer) ของร่างกายมนุษย์ และต้องค้นพบวิธีฟื้นฟูอวัยวะ ซึ่งก็มีองค์กรที่ศึกษาเรื่องนี้อยู่อย่างจริงจัง. ความสุข (Happiness). คงไม่มีใครอยากมีชีวตอมตะเเล้วต้องจมอยู่กับความทุกข์หรอก. หากวิทยาศาสตร์คิดถูกว่าความสุขเกิดจากระบบชีวเคมีในร่างกาย ดังนั้นทางเดียวที่จะทำให้เรามีความสุขไปตลอดกาลคือการไปปรับแต่งระบบชีวเคมีนี้. ผู้คนจะมีความสุขได้จากเพียงสิ่งเดียวคือความรู้สึกสุข(pleasant sensation).
ชัชพล เกียรติขจรธาดา (หมอเอ้ว) นักเขียน แสดงความคิดเห็น เป็นหนังสือที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เหมาะกับการเพิ่มความรู้ความคิดเพื่อตั้งรับกับปัจจุบันและอนาคตต่อไป
สั่ง ซื้อ ของ โลตัส, 2024