homeremediesforeverything.org
"แม่เล่าทั้งน้ำตา"ลูกทรมานเพราะหมอวินิจฉัยผิด | 05-09-62 | ข่าวเช้าไทยรัฐ - YouTube
ลูกเกือบตาย หมอวินิจฉัยโรคผิด ปวดท้องทรมาน นอนไม่ได้ ต้องนั่งหลับ หมอระบุลำไว้อักเสบ พอย้าย รพ.
กิ่งกาญจน์: 45 ปีค่ะ ไม่มีโรคประจำตัว รักษาแค่โรคคอเลสเตอรอล สามีไม่เคยบอกว่าเป็นโรคหัวใจ สงสัยอะไรกับทางโรงพยาบาล? กิ่งกาญจน์: คือเขาวินิจฉัยมาว่าจุกเสียดมาจากกระเพาะอาหาร แต่เสียชีวิตเพราะหัวใจตีบ ถ้าแพทย์รักษาได้ถูกต้อง สามีคงไม่ตาย เพราะเดินไปบอกคุณหมอได้ ถ้าวินิจฉัยถูกต้อง จะรักษาไปทางโรคหัวใจ แต่นี่แค่ฉีดยาให้ แล้วให้กลับไปบ้าน ไม่ได้รักษาเกี่ยวกับโรคหัวใจเลย วันนั้นกะว่าให้นอนรอดูอาการที่โรงพยาบาลอยู่แล้ว เพราะกลับบ้านไปจะฉุกละหุก แต่เขาให้ฉีดยาแล้วกลับบ้าน ตอนไปรักษายังเดินไปรักษาได้เลย วินาทีช่วยกันปั๊มหัวใจ แล้วปั๊มไม่ขึ้น? กิ่งกาญจน์: อยากให้เป็นความฝัน แต่ยังไงก็ไม่ใช่ (ร้องไห้) เขาไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ เรียกยังไงก็ไม่กลับมาหาเราอีกแล้ว มันติดตาลูก ติดตาภรรยา ทำให้เราเสียเขาโดยเราตั้งตัวไม่อยู่ เพราะก่อนหน้านี้เราก็ยังทำกิจกรรมร่วมกันอยู่ในทุก ๆ วัน เพิ่งพาไปหาหมอกลับมานอนใกล้ ๆ กัน แต่แค่ชั่วโมงเดียวเขาก็ไม่หายใจ ไม่ได้บอกลา ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย (ร้องไห้) เขากลับมานอนเลย เราไม่ได้คุยอะไรกันเลย หนูเจอเขาเป็นแบบนั้นเลย น้ำลายฟูมปาก ตาเหลือก ไม่ได้คุยอะไรกันเลย เหมือนมาแล้วเราก็นอนพักผ่อนที่บ้าน (ร้องไห้) ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ สามีคือเสาหลักครอบครัว?
ธรรมศาสตร์รังสิต ยืนยันการเสียชีวิต ผ่าโดยละเอียดแล้ว ยืนยันว่าเสียชีวิตจากโรคหัวใจตีบ ออกไปชั่วโมงเดียวเสียชีวิตทันที หมอบอกว่าน้ำท่วมปวดแล้ว จะตายอยู่แล้ว คุณส่งเขากลับไปตาย คุณเป็นหมอเป็นโรงพยาบาลบอกว่ามีศูนย์โรคหัวใจ 24 ชม. ฉุกเฉิน แต่คุณส่งคนเป็นโรคหัวใจตีบกลับไปตาย คุณส่งเขากลับไปได้ยังไง ทำไมไม่ฉีดสี ไม่ทำการรักษา อยากพูดอะไร? กิ่งกาญจน์: (ร้องไห้) อยากให้เขาออกมารับผิดว่าเขาทำให้สามีต้องเสียชีวิต ออกมาบอกว่าตัวเองผิดหน่อยเถอะ ไม่ใช่ไม่ยอมรับอะไรเลย ไม่ทำผิดอะไรเลย เห็นชีวิตคนเป็นผักเป็นปลา ไม่มีค่าอะไรเลย ชีวิตสามีเขามีความสำคัญกับครอบครัวหนูมาก (ร้องไห้) ทุกวันนี้ผ่านโรงพยาบาลนี้รู้สึกแย่เพราะใช้บริการอยู่ที่นี่มาตลอด ลูกชายก็คลอดที่นี่ อยากบอกอะไรสามี? กิ่งกาญจน์: อยากบอกว่าคิดถึงเขามาก ไม่ได้เจอหน้าหลายวันแล้ว (ปล่อยโฮ) อยากบอกว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด เขาจะต้องไม่ตายโดยไม่มีใครมารับผิดชอบเรื่องนี้
คำถามที่ 3 ของ นพ. สมิทธิ์ ถามผ่านสาธารณะว่า "... อีกข้อ ขอตำหนินักข่าวที่ไปทำข่าวเรื่องนี้กับอาสาท่านนั้นด้วย คือ ท่านคิดว่าการสัมภาษณ์ผลการตรวจศพควรทำกับอาสาฯ มากกว่าแพทย์นิติเวชที่ผ่าเหรอครับ" ผมขอตอบคำถามที่ 3 ของ นพ. สมิทธิ์ ว่า คุณถือดีอะไรไปตำหนินักข่าวอย่างนี้ นักข่าวจะสัมภาษณ์ใครก็เป็นเสรีภาพของเขาในวิชาชีพสื่อเพื่อการแสวงหาข่าวสาร การที่นักข่าวไม่สัมภาษณ์แพทย์นิติเวชที่ผ่าก็เป็นดุลพินิจของนักข่าว คุณต้องไปทบทวนแพทย์นิติเวชฯด้วยกันเองเสียด้วยว่าแพทย์นิติเวชฯ พร้อมที่จะให้นักข่าวสัมภาษณ์จริงหรือไม่ เท่าที่เห็นก็มีแต่บ่ายเบี่ยงไม่ให้สัมภาษณ์ หากให้สัมภาษณ์ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะเป็นความจำเป็นทางคดี นักข่าวก็ไม่คิดจะสัมภาษณ์กับแพทย์นิติเวชฯสิครับ ในเมื่อพวกคุณมันพึ่งไม่ได้ นักข่าวเขาก็ไม่สัมภาษณ์พวกคุณไง... จริง ๆ แล้วนักข่าวอยากสัมภาษณ์แพทย์นิติเวชฯ ที่ผ่าจะตายไป 4. ข้อความสุดท้ายของ นพ. สมิทธิ์ ผ่านสาธารณะว่า "จริง ๆ ผมเคารพอาสามาก ๆ เลยนะครับ ผมสนิทกับหลายคนมาก ๆ อาสาเจอผมก็จะพูดคุยกันดีมาก เพราะผมออกที่เกิดเหตุท้องที่ในรามาฯ มาเกินสิบปีแล้ว และผมขอบคุณอาสาหลาย ๆ คนเลยครับที่เวลาไปตรวจที่เกิดเหตุช่วยในการตรวจศพและขนศพออกมา บางเคสก็ยากลำบากมากจริง ๆ นับถือความมีน้ำใจในหลาย ๆ ครั้ง แต่ผมไม่เห็นด้วยกับอาสาที่ทำแบบนี้เลยครับ อย่างไงก็ฝากช่วย ๆ เตือนกันหน่อยนะครับ" ผมขอแสดงความเห็นต่อข้อความสุดท้ายของ นพ.
สั่ง ซื้อ ของ โลตัส, 2024