homeremediesforeverything.org
กรณีคลอดบุตร สามารถเบิกค่าคลอดได้ ครั้งละ 13, 000 บาท (ต้องชำระค่าประกันสังคมมาไม่ต่ำกว่า 15 เดือน) ___________________________________________________________________________________ 4. การลาคลอด สามารถลาได้ 90 วัน และจะได้รับเงินเดือนระหว่างลาคลอด ไม่เกิน 45 วัน ___________________________________________________________________________________ 5. ในกรณีที่มีบุตร ผู้ประกันตน สามารถรับเงินสงเคราะห์บุตรได้ เดือนละ 600 บาท / บุตร1คน จำกัดไม่เกิน 3 คน ___________________________________________________________________________________ 6. หากทั้งพ่อและแม่เป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ สามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ___________________________________________________________________________________ 7. ประกันสังคมจ่ายให้ ไม่เกิน 900 บาท / ปี สำหรับการอุดฟัน, การถอนฟัน, การผ่าฟันขุด และ การขูดหินปูน ___________________________________________________________________________________ 8.. กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกโรงพยาบาล โดยสำรองจ่ายไปก่อน และนำหลักฐานไปเบิกขอเงินคืนได้ ___________________________________________________________________________________ 9.
28 ธ. ค. 2563 13:25 น. สำนักงานประกันสังคมมีนโยบายส่งเสริมการออมและการสร้างหลักประกันชีวิตในวัยเกษียณ โดยผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน มีอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนได้สิ้นสุดลง สามารถรับเงินบำนาญชราภาพรายเดือนไปตลอดชีวิต // นอกจากนี้ หากผู้รับบำนาญชราภาพมีอายุไม่เกิน 65 ปี ยังสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้อีกด้วย ทั้งนี้ สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ที่สำนักงานประกันสังคม หน่วยบริการเคลื่อนที่ของสำนักงานประกันสังคม สมัครผ่านภายใต้เครือข่ายประกันสังคม สมัครทางเว็บไซต์หรือสายด่วนประกันสังคม หรือผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 ธ. ก. ส. และ Big C อ่านเพิ่มเติม...
สำหรับพนักงานประจำ จะถูกนายจ้างจะหักเงินเดือน 5% สูงสุดไม่เกิน 750 บาท เพื่อนำส่งกองทุนประกันสังคมในทุกๆ เดือน เช่น หากคุณได้รับเงินเดือน 10, 000 บาท จะถูกหักเงินเพื่อนำส่งประกันสังคม 500 บาท หากได้รับเงินเดือน 15, 000 บาท จะถูกหักเงินเพื่อนำส่งประกันสังคม 750 บาท แต่ในกรณีที่เงินเดือน 15, 000 ขึ้นไปจะถูกหัก 750 บาท เนื่องจากเป็นเพดานสูงสุด สมทบแล้วเงินไปไหน? จุดสำคัญที่ผู้ประกันตนควรรู้ และต้องรู้คือ เงิน 5% ที่ถูกหักไปสมทบในกองทุนประกันสังคมนั้นไปอยู่ที่ไหนบ้าง สมมติว่าเราส่งเงินสมทบในกองทุนประกันสังคมทุกเดือน เดือนละ 750 บาท 1. 5% ของยอดสมทบหรือ 225 บาท จะใช้ในส่วนประกันเจ็บป่วย หรือตาย 0.
หลายคนคงเซ็ง พอเงินเดือนออกปุ๊บ ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย หักกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมไปถึงหักประกันสังคม สุดท้ายมาดูยอดสุทธิ นี่เงินเดือนหรือเงินทอนกันครับ??? แล้วมันคุ้มไหมกับที่หักไป? ดังนั้น เราควรกลับดูกันว่า สิทธิประกันสังคมที่ทุกควรรู้มีอะไรบ้าง? มาดูกันครับ!! ประกันสังคม เป็นการออมเงินภาคบังคับที่รัฐบาลสนับสนุนให้คนไทยทุกคนมีหลักประกันในการใช้ชีวิต มีความมั่นคงให้ครอบครัวและมีเงินเก็บส่วนหนึ่งเตรียมพร้อมใช้เพื่อการเกษียณ จริงๆ แล้วประกันสังคมมีกันทั่วโลกนะครับ แต่ถ้าถามว่าคุ้มไหม จ่ายไปมีประโยชน์อะไรบ้าง เราลองมาเช็คดูกันว่าสิทธิประกันสังคมทั้ง 8 อย่าง มีอะไรบ้าง อัปเดตข้อมูล 1 ก. ย. 2564 1. เจ็บป่วยเบิกได้ รักษาพยาบาลฟรี ตามโรงพยาบาลที่ระบุเลือกไว้ในบัตรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ยกเว้นกรณีฉุกเฉินไปหาโรงพยาบาลใกล้เคียงได้แล้วสำรองจ่ายมาเบิกทีหลัง กรณีผู้ป่วยใน เบิกได้ตามที่จ่ายจริง แต่สำหรับค่าห้องและค่าอาหาร ที่รักษาโรงพยาบาลรัฐบาล เบิกได้ไม่เกินวันละ 700 บาท ในส่วนของค่าห้องและค่าอาหาร ที่รักษาโรงพยาบาลเอกชน เบิกได้ไม่เกินวันละ 2, 000 บาท (ICU 4, 500) โดยโรคและบริการที่ไม่มีสิทธิได้รับบริการทางการแพทย์ (กลุ่ม 13 โรคยกเว้น) 1.
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม คนทำงานประจำ ล้วนต้องจ่ายเงินสมทบให้กับสำนักงานประกันสังคม จำนวน 5% ของเงินเดือน เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ที่จะได้รับ รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ แต่หลายคนก็ยังคงไม่เข้าใจกับรายละเอียดของประกันสังคมเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะเรื่องของการทำบัตรประกันสังคม ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมจึงมีข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับวิธีการทำประกันสังคมมาฝาก เพื่อไขข้อข้องใจกันจ้า.. ก่อนที่จะไปรู้จักกับวิธีการทำบัตรประกันสังคม ลองมารู้จักกับประเภทของประกันสังคมกันก่อนดีกว่า ซึ่งประเภทของประกันสังคมนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้ 1. ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 (ลูกจ้าง, พนักงาน) คือบุคคลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปี ที่ทำงานประจำ และอยู่ในสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป โดยจะเป็นการส่งเงินสมทบ 5% ของเงินเดือน และนายจ้างจะทบเงินให้อีก 5% ซึ่งในส่วนนี้ทางนายจ้างจะเป็นผู้ดำเนินการทำบัตรประกันสังคมให้เอง 2. ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 (ผู้ประกันตนแบบสมัครใจ) คือบุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พนักงานที่ลาออกจากที่ทำงานเพื่อมารับทำงานอิสระ แต่เคยส่งเงินสมทบประกันสังคมไปแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ที่ประสงค์จะส่งเงินสมทบเพื่อเป็นผู้ประกันตนต่อไป จะต้องแจ้งขอเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ภายใน 6 เดือน หลังไม่ได้ส่งเงินสมทบในฐานะผู้ประกันตนตามมาตรา 33 3.
ลูกเรียนช่วยค่าเทอม เงื่อนไข: จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรที่ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาท ตั้งแต่บุตรอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ (สูงสุด 3 คนต่อครั้ง) 7. ตกงานมีเงินให้ เงื่อนไขการใช้สิทธิประกันสังคม จ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงาน มีระยะเวลาว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป ต้องไม่ถูกเลิกจ้างในกรณี ทุจริตต่อหน้าที่หรือจงใจให้นายจ้างได้รับความเสียหาย สิทธิประโยชน์ ในกรณีที่ถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินชดเชย 50% ของเงินเดือน (สูงสุดไม่เกิน 180 วัน คำนวณจากฐานเงินเดือน 15, 000 บาท) ในกรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างงาน ได้รับเงินชดเชย 30% ของเงินเดือน (สูงสุดไม่เกิน 90 วันคำนวณจากฐานเงินเดือน 15, 000 บาท)ค 8. เกษียณไปมีค่าขนม กรณีบำนาญชราภาพ เงื่อนไขการใช้สิทธิ์ จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน (ไม่ต้องจ่าย 180 เดือนติดต่อกัน) มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง ถ้าจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือนจะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือน ในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย (ประมาณ 3, 000 ต่อเดือน) ถ้าจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือนจะได้รับการปรับเพิ่มบำนาญชราภาพอีกร้อยละ 1.
กรณีว่างงาน จากการลาออก ประกันสังคมจะจ่ายให้ 30% ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 15, 000 บาท ___________________________________________________________________________________ 23. กรณีว่างงาน จากการถูกเลิกจ้าง ประกันสังคมจะจ่ายให้ 50% ของรายได้ สูงสุด ไม่เกิน 15, 000 บาท ___________________________________________________________________________________ 24. การถูกเลิกจ้าง ที่จะได้รับเงินชดเชย ต้องไม่อยู่ในกรณีดังนี้ 24. 1ทุจริตต่อหน้าที่ กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง 24. 2จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย 24. 3ฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณีร้ายแรง 24. 4ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร 24. 5ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง 24. 6ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา 24. 7ต้องมิใช่ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 นับแต่วันว่างงานจากการทำงานกับนายจ้างรายสุดท้าย 24. 8ไม่เป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจตามมาตรา 39 ___________________________________________________________________________________ 25.
สั่ง ซื้อ ของ โลตัส, 2024